วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวตามใจอยาก คือแบบน่าเที่ยวสุดๆ ใกล้ๆด้วย

คือเนื่องจากว่าฉันเป็นคนชอบเที่ยว...มันผิดหรือไร... อ้าวไม่ใช่ๆ 555555555555 ก็นั่นแหละชอบเที่ยว
ก็เลยทำบล็อก
ที่เป็นว่า
เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆสุดฟินขอให้เพื่อนๆติดตามกันนะค่ะ
ถึงแม้ว่ายังจะไม่เคยไปแต่ดิฉันจะต้องไปเที่ยวสักวันอย่างแน่นอนค่ะอิอิ


วันเดียวเที่ยวใกล้กรุงกับ 10 ที่สุดฮอต!!
วันเดียวเที่ยวใกล้กรุงกับ 10 ที่สุดฮอต!!
ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงแบบไปเช้า-เย็นกลับ EDTguide ขอรวบรวมให้เลือกไปกันได้หลากหลายแนว  ไม่ว่าจะเป็นแนวฟาร์ม  ธรรมชาติ สวนสนุก หรือแหล่งการเรียนรู้ ยิ่งตอนนี้เด็กๆกำลังปิดเทอมหลายบ้านก็รบเร้าให้คุณพ่อคุณแม่พาไปเที่ยว เอาแบบง่ายๆ ไปไม่ยากจัดให้เลย 10 ที่ ชอบแบบไหนก็ like & share ชวนเพื่อนไปเที่ยวกันเลย

Camel Republic
Camel Republic สถานที่ท่องเที่ยว Theme Park แห่งใหม่ของเมืองชะอำ ในบรรยากาศดินแดนบนสุดของทวีปแอฟริกาตะวันออก ที่มีกลิ่นอายของชาวแขกมัวร์ ในคอนเช็ปต์ “ประสบการณ์สุดสนุก แสนสุขทั้งครอบครัว”  เนรมิตสถาปัตยกรรมโดยรอบตกแต่งในสไตล์โมร็อกโก เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกได้สัมผัสบรรยากาศราวกับอยู่ในดินแดนโมร็อกโก โดยคอนเซ็ปต์หลักในการก่อสร้าง คือ อูฐและฤดูร้อน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โซนเครื่องเล่น ที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวหลายแบบ  โซนสวนสัตว์ พบกับอูฐ อัลปาก้า ยีราฟ หงส์ และสัตว์อีกหลายชนิด โซนสุดท้ายโซนร้านและร้านขายของที่ระลึกให้ ให้ทุกท่านได้พักเหนื่อยทานของอร่อยรวมถึงซื้อตุ๊กตาน่ารักๆ กลับบ้าน
ที่ตั้ง :ถนนเพชรเกษม อ.ชะอำ เพชรบุรี
เวลาเปิด: 10.00-18.00น.
ค่าเข้า :ผู้ใหญ่ 120 บาท เด็กส่วนสูง 90-130 ซม. คนละ 90 บาท ผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป คนละ 90 บาท เด็กที่มีส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. เข้าชมฟรี
โทร.:092-269-5055, 032-890-860-2 


1000Sook Food and Farm at cha-am
พันธ์สุข ฟู้ด แอนด์ ฟาร์ม กับสถาปัตยกรรมแบบอิงลิชคันทรี เน้นความเรียบง่ายคลาสสิกตามชีวิตชนบท ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานและกำลังได้รับความนิยม นอกจากจะแวะมาทักทายน้องแกะ ยังมีการสอนทำขนมไทย วิธีการทำการเกษตรแบบง่ายๆ เช่น การปลูกข้าวโพด ผักปลอดสารพิษ และกิจกรรมสนุกอีกเพียบ ส่วนไฮไลต์สำคัญคือห้องอาหารที่ตกแต่งได้น่านั่งกับบรรยากาศสบายๆ เมนูเด็ดคือ สเต๊ก ที่มีให้เลือกหลายแบบมาก โดยเฉพาะพอร์คชอปผักโขมอบชีสเด็ดสุด
ที่ตั้ง :ถนนเพชรเกษม อ.ชะอำ เพชรบุรี
เวลาเปิด: 09.30-20.30 น.
ค่าเข้า :-
โทร.:083 611 0624


For Art"s Sakeพิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติแห่งแรกในประเทศไทยด้วยฝีมือคนไทยเพิ่งเปิดได้เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี่เอง ภายในแบ่งเป็นสองชั้น มีภาพมากกว่า 50 ภาพ ลูกเล่นแปลกตาที่รับรองว่าใครไปจะสนุกกับการถ่ายรูปมาก
ที่ตั้ง: ข้างโรงพยาบาลหัวหิน ถนนเพชรเกษม หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
เวลาเปิด: 10.00-21.00 น.
ค่าเข้า :ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 120 บาท 
โทร.: 032-520699 


Mimosa PattayaMimosa  แหล่งท่องเที่ยวสไตล์ฝรั่งเศสแห่งเมืองพัทยาสถาปัตยกรรมโดดเด่น สีสันหลากหลาย สวยงาม พร้อมบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร ในหลายแบบด้วยกัน พร้อมมุมถ่ายภาพ ที่โดนใจนักท่องเที่ยว ทั้งหลายอย่างแน่นอนแต่ที่น่าสนใจ และเป็นเสน่ห์ของที่นี่ ก็คือมุมคลองเล็กๆ กลางพื้นที่ ที่สองด้านเป็นอาคารหันหน้าชนกัน มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่มาทายทัก พร้อมร้านกาแฟ ร้านพิซซ่า ให้นั่งชิลล์ริมคลองเล็กๆ แห่งนี้ นอกจากนั้นยังมัโชว์ตระการตาที่จัดเต็มกันทุกโชว์ ณ ลานน้ำพุดนตรีที่หมุนเวียน เปลี่ยนมาสร้างความบันเทิงทุกวันโดยการแสดงจะมี 2 รอบ เวลา 19.00 น. และ 20.00 น.จะเริ่ดไหนต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
ที่ตั้ง :ตรงข้ามกับโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้จอมเทียน ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี
เวลาเปิด: 10.00-22.00น.
ค่าเข้า :50 บาท
โทร.:038 -237-318-20



Pattaya Sheep Farmพัทยาก็มีแกะกับเค้าเหมือนกันที่นี่เลย Pattaya Sheep Farmฟาร์มเลี้ยงแกะที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ภายในมีมุมให้เลือกถ่ายรูปเยอะเลยไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นแกะน่ารักๆ ที่แทบจะแยกไม่ออกอันไหนของจริงอันไหนของปลอม บ้านพักน้องแกะ หมูแคระ กวาง หรือจะเป็นกระโจมอินเดียแดงที่วางอยู่รอบๆ สร้างสีสันให้ที่นี่ได้เป็นอย่างดี เดินกันจนเหนื่อยถ่ายรูปกันจนเพลียแวะไปทานของอร่อยที่บ้านสเต๊กพร้อมเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ
ที่ตั้ง :ถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง ชลบุรี
เวลาเปิด: 09.00-19.00 น.
ค่าเข้า :50 บาท
โทร.:092 321 6718 ,0811549437


J-PARKหยุดวันเดียวจะไปญี่ปุ่นก็คงจะไม่ได้งั้นไปนี่เลย J Park ห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เป็นกระแสที่กำลังอินเทรนด์อย่างมากในหมู่นักชอปและนักแสวงหามุมใหม่ๆ เพราะที่นี่เป็นทั้งที่ชอป ที่กิน ที่ดื่ม ที่เที่ยว แถมยังมีมุมโดนๆ มีลูกเล่นสนุกๆ ให้นักแชะภาพได้ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะ check in ไว้อวดชาวบ้านไม่ให้ out ก็ยังได้ การตกแต่งบรรยากาศจะเน้นแนวคิดสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม นอกจากได้ชอปสินค้ามากมายที่เน้นความเป็นญี่ปุ่นโดยตรงแล้ว ยังได้เพลิดเพลินตากับบรรยากาศความเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัยทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ในถิ่นดั้งเดิมเลยก็ว่าได้ 
ที่ตั้ง :ถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง ชลบุรี
เวลาเปิด: 09.00-19.00 น.
ค่าเข้า :50 บาท
โทร.:092 321 6718 ,0811549437
ขอบคุณภาพจาก CORONA


PiPo Pony Club

วันเดียวเที่ยวใกล้กรุงกับ 10 ที่สุดฮอต!!

วันเดียวเที่ยวใกล้กรุงกับ 10 ที่สุดฮอต!!
ฟาร์มม้าแคระแห่งแรกของเมืองพัทยาและประเทศไทย เปิดบริการเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2557 ที่ผ่านมานี้เอง เพลิดเพลินกับม้าชมความสวยงามของม้าแคระสายพันธ์เซ็ตแลนด์นำเข้าจากต่างประเทศ สนุกกับม้าแฟนซี หรือเรียนขี่ม้าจากครูฝึกจากต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีรถคลาสสิกสีชมพูหวานที่จะพาน้องๆ ชมสถานที่อันกว้างขวางของที่นี่ จุดที่ดป็นไฉไลต์ก็คือจุดชมการแสดงโชว์ของเหล่าม้าแคระ มีโชว์น่ารักมากมาย หมุนเวียนสลับขึ้นมาให้ชม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เด็กๆต้องชอบอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง :หมู่1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ. ชลบุรี 20150 
เวลาเปิด :08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 150 บาท เด็กความสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตรเข้าฟรี 
โทรศัพท์ :038-249-555, 038-249-565-6 
ขอบคุณภาพจาก  www.facebook.com/PipoPonyClubPattaya


สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา ดินแดนแห่งความฝันที่เชื่อว่าวัยเด็กเราต้องอยากจะมีตุ๊กตาตัวโตๆ มีหมีตัวใหญ่ๆไว้กอดคลายเหงา สุนทรีแลนด์ ดินแดนแห่งความฝัน ของคนรักตุ๊กตา แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรี เพลิดเพลินไปกับตุ๊กตานุ่มๆ น่ากอด ในเมืองตุ๊กตา ที่ตกแต่งออกมาตามจินตนาการกว่า 15 โซน ไม่ว่าจะเป็น หมียักษ์ตัวใหญ่ จำลองชุดประจำชาติของอาเซียน โซนประเทศจีน ญี่ปุ่น ตื่นตากับชนเผ่าหมีน้อย เรียนรู้วัฒนธรรมไทยที่ บ้านริมน้ำวิถีไทย ตื่นเต้นกันการหาทางออกที่เขาวงกต และโซนอื่นๆอีกมากมาย จากนั้นมาแต่งแต้มจิตนาการของตนเองที่ห้องงานประดิษฐ์ ที่ทุกท่านสามารถประดิษฐ์ตุ๊กตาที่เป็นฝีมือคุณเอง ไม่ซ้ำใคร มีหนึ่งเดียวในโลก หากนึกไม่ออก หรืออยากจะหาซื้อของฝากของที่ระลึก ก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์เลยล่ะ
ที่ตั้ง :1/2 ม.1 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เวลาเปิด :09.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40บาท 
โทรศัพท์ :032-744-559, 082-021-7888


เขื่อนขุนด่านปราการชล 
เขื่อนขุนด่านปราการชล หรือ เขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนบดคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก ว้าววที่นี่เหมาะแก่การไปพักผ่อนชิลล์ชมวิวสันเขื่อน โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบายมีหมอกจางๆกับสายน้ำเย็นๆ โดยเฉพาะการนั่งเรือชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์เป็นอีกกิจกรรมที่แนะนำหากได้เยือนที่นี่ และอย่าเพิ่งรีบกลับรอชมวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันก่อนรับรองสวยไม่แพ้ที่ใดเลยล่ะ
ที่ตั้ง :ตำบล นาหินลาด อำเภอ ปากพลี จังหวัด นครนายก 


สวนรุกขชาติมวกเหล็ก
สวนรุกขชาติมวกเหล็ก อยู่ห่างจากสระบุรีประมาณ 37 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพ มีเนื้อที่ 375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กับอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีลำธารซึ่งมาจากต้นน้ำในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำป่าสัก ในลำธารมีแก่งหินลดหลั่น เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ บริเวณสองฟากของลำธารมีสะพานแขวน และพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับหลายชนิด รวมถึงน้ำตกมวกเหล็ก เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไป  มีน้ำไหลตลอดปีและเป็นแนวแบ่งเขตตามธรรมชาติระหว่างจังหวัดสระบุรีกับ จังหวัดนครราชสีมา  สามารถนั่งพักผ่อนชมน้ำตกหรือลงเล่นน้ำได้ตลอดทั้งวัน
ที่ตั้ง : อ.มวกเหล็ก สระบุรี

ครบถ้วนหลากแนวหลายแบบ ชอบสไตล์ไหนวันหยุดนี้ไปแบบไม่ต้องมีวางแผนล่วงหน้าก็ยังได้เพราะแต่ละที่ ที่ EDTguide จัดให้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลยค่ะ 

ขอบคุณค่ะ ♥

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

REVIEW PROGRAM : AIMP2

เนื่องจากดิฉันเป็นคนชอบฟังเพลงเป็นอย่างมากไปไหนก็ต้องมีเพลง แม้แต่นั่งเล่นเฟสบุค หรือทำงาน อ่านหนังสือก็ต้องมีเพลงตลอด เพราะฉะนั้นวันนี้ดิฉันจึงจะว่ารีวิวโปรแกรม AIMP2 ซึ่งเป็นโปรแกรมฟังเพลงที่สามารถปรับแต่งเพลงเองได้ด้วย จึงมีความแปลกใหม่สำหรับโปรแกรมเล่นเพลงขอให้เพื่อนๆสนุกกับโปรเกรมนี้น้า
เริ่ม
กัน
เลย!!!!
พอเปิดโปรแกรมมาเราก็จะเจอหน้านี้เลย การใช้อย่างง่ายก็คือ กดปุ่ม+ ตรงซ้ายล่างของโปรแกรมเพื่อเลือกเพลงภายในคอมพิวเตอร์

พอกดแล้วจะให้เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ เราก็เลือกตามใจชอบเลยจ้า

ส่วนต่อมาคือส่วนปรับแต้งเสียงเพลง และอิควอไลเซอร์ ในส่วนของอิควอไลเซอร์มันยากไปจึงขอข้ามไปนะคะ เพราะดิฉันเองปรับเองบางทียังไม่เพราะเลย ส่วนปรับแต่งเพลงอันแรกก็จะเป็น SPEED ก็จะเพิ่ม-ลดความเร็วของเพลงได้ แต่ถ้าไวขึ้นก็จะทำให้เสียงแหลม ช้าลงจะทำให้เสียงต่ำ ส่วนต่อมาคือ TEMPO ปรับความเร็วของเพลง ส่วนต่อมาคือ PITCH ปรับความสูงต่ำของเสียงร้อง ส่วนต่อมาคือ FLANGER ก็จะปรับเกี่ยวกับทำให้เสียงรวมเป็นมวลเดียว ส่วนต่อมาคือ ECHO ก็จะทำให้เสียงสะท้อน ต่อมาคือ REVERB ทำให้เสียงก้องกังวาลมากขึ้น

ขอขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 7 : คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์

สวัสดีจ้าเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน และคุณครูนัทสุดหล่อ ในวีคนี้เป็นสิ่งที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไหร่แต่ก็จะพยายามทำให้สุดความสามารถนะคะ ♥♥
คอมพิวเตอร์ (อังกฤษcomputer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์ เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย
คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บข้อมูลไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) สมัยใหม่หลายร้อยเครื่องรวมกัน
คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่นี้ผลิตขึ้นโดยใช้วงจรรวม หรือวงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมีความจุมากกว่าสมัยก่อนล้านถึงพันล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่องใช้พื้นที่เพียงเศษส่วนเล็กน้อยเท่านั้น คอมพิวเตอร์อย่างง่ายมีขนาดเล็กพอที่จะถูกบรรจุไว้ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์มือถือนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหากจะมีคนพูดถึงคำว่า "คอมพิวเตอร์" มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของยุคสารสนเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีคอมพิวเตอร์ชนิดฝังอีกมากมายที่พบได้ตั้งแต่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามจนถึงเครื่องบินบังคับ และของเล่นชนิดต่าง ๆ จนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม

คอมพิวเตอร์ยุคแรกที่มีฟังก์ชันจำกัด

ประวัติของคอมพิวเตอร์สมัยใหม่นั้นเริ่มต้นจากเทคโนโลยีสองชนิดที่แตกต่างกัน ได้แก่ การควายคำนวณโดยอัตโนมัติ กับการคำนวณที่สามารถโปรแกรมได้ (หมายถึงสร้างวิธีการทำงานและปรับแต่งได้) แต่ระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าเทคโนโลยีชนิดใดเกิดขึ้นก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการคำนวณแต่ละชนิดนั้นไม่มีความสอดคล้องกัน อุปกรณ์บางชนิดก็มีความสำคัญที่จะเอ่ยถึง อย่างเช่นเครื่องมือเชิงกลเพื่อการคำนวณบางชนิดที่ประสบความสำเร็จและยังใช้กันอยู่หลายศตวรรษก่อนที่จะมีเครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ อาทิลูกคิดของชาวสุเมเรียนที่ถูกออกแบบขึ้นราว 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ชนะการแข่งขันความเร็วในการคำนวณต่อเครื่องคำนวณตั้งโต๊ะเมื่อ ค.ศ. 1946 ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในคริสต์ทศวรรษ 1620 มีการประดิษฐ์สไลด์รูล ซึ่งถูกนำขึ้นยานอวกาศในภารกิจของโครงการอะพอลโลถึง 5 ครั้ง รวมถึงเมื่อครั้งที่สำรวจดวงจันทร์ด้วย นอกจากนี้ยังมี เครื่องทำนายตำแหน่งดาวฤกษ์ (Astrolabe) และ กลไกอันติคือเธรา ซึ่งเป็นเครื่องคำนวณ (คอมพิวเตอร์) เกี่ยวกับดาราศาสตร์ยุคโบราณที่ชาวกรีกเป็นผู้สร้างขึ้นราว 80 ปีก่อนคริสตกาล ที่มาของระบบการสั่งการโปรแกรมเกิดขึ้นเมื่อ ฮีโรแห่งอเล็กซานเดรีย (c.10-70 AD) นักคณิตศาสตร์ชาวกรีกสร้างโรงละครที่ประกอบด้วยเครื่องจักร ใช้แสดงละครของขวัญความยาว 10 นาที และทำงานโดยมีกลไกเชือกและอิฐบล็อกทรงกระบอกที่ซับซ้อน ซึ่งสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าจะชิ้นส่วนกลไกใดใช้ในการแสดงฉากใดและเมื่อใด
ราว ๆ ปลายศตวรรษที่ 10 สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2 นักบวชชาวฝรั่งเศส ได้นำลิ้นชักบรรจุอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่จะตอบคำถามได้ว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ เมื่อถูกถามคำถาม (ด้วยเลขฐานสอง) ซึ่งชาวมัวร์ประดิษฐ์ไว้กลับมาจากประเทศสเปน ในศตวรรษที่ 13 นักบุญอัลแบร์ตุส มาญุส และโรเจอร์ เบคอน นักปราชญ์ชาวอังกฤษ ได้สร้างหุ่นยนต์แอนดรอยด์ (android) พูดได้ โดยไม่ได้พัฒนาใด ๆ ต่ออีก (นักบุญอัลแบร์ตุส มาญุส บ่นออกมาว่าเขาเสียเวลาเปล่าไป 40 ปีในชีวิต เมื่อนักบุญโทมัส อควีนาสตกใจกับเครื่องนี้และได้ทำลายมันเสีย)
ในปี ค.ศ. 1642 แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีการประดิษฐ์เครื่องคำนวณของปาสคาลซึ่งเป็นเครื่องคำนวณตัวเลขเชิงกล เป็นอุปกรณ์ที่จะสามารถคำนวณโดยใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์โดยไม่ต้องพึ่งสติปัญญามนุษย์ เครื่องคำนวณเชิงกลนี้ยังถือเป็นรากฐานของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในสองทาง แรกเริ่มนั้น ความพยายามที่จะพัฒนาเครื่องคำนวณที่มีสมรรถภาพสูงและยืดหยุ่น ซึ่งทฤษฎีนี้ถูกสร้างโดยชาร์ลส แบบเบจ และได้รับการพัฒนาในเวลาต่อมา นำไปสู่การพัฒนาเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่) ขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 และในขณะเดียวกัน อินเทล ก็สามารถประดิษฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเป็นหัวใจสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์หากไม่คำนึงถึงขนาดและวัตถุประสงค์ ขึ้นได้โดยบังเอิญ ระหว่างการพัฒนาเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ บิซิคอม ที่พัฒนาสืบต่อจากเครื่องคำนวณเชิงกลโดยตรง

และต่อไปก็เป็น เครือจข่าบคอมพิวเตอร์ค่าาา

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก (อังกฤษcomputer network; ศัพท์บัญญัติว่า ข่ายงานคอมพิวเตอร์) คือเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆในเครือข่าย (โหนดเครือข่าย) จะใช้สื่อที่เป็นสายเคเบิลหรือสื่อไร้สาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันดีคือ อินเทอร์เน็ต
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกัน เพื่อเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น และลดต้นทุนของระบบโดยรวมลง
การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกันในเครือข่าย ทำให้ระบบมีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้น การแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผลหน่วยความจำหน่วยจัดเก็บข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีราคาแพงและไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดภาพ (scanner) ทำให้ลดต้นทุนของระบบลงได้
อุปกรณ์เครือข่ายที่สร้างข้อมูล, ส่งมาตามเส้นทางและบรรจบข้อมูลจะเรียกว่าโหนดเครือข่าย. โหนดประกอบด้วยโฮสต์เช่นเซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่าย อุปกรณ์สองตัวจะกล่าวว่าเป็นเครือข่ายได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการในเครื่องหนึ่งสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกระบวนการในอีกอุปกรณ์หนึ่งได้
เครือข่ายจะสนับสนุนแอปพลิเคชันเช่นการเข้าถึงเวิลด์ไวด์เว็บ, การใช้งานร่วมกันของแอปพลิเคชัน, การใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเก็บข้อมูลร่วมกัน, การใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องแฟ็กซ์ร่วมกันและการใช้อีเมลและโปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีร่วมกัน
สื่อกลางการสื่อสารที่ใช้ในการเชื่อมโยงอุปกรณ์เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยสายเคเบิลไฟฟ้า (HomePNA, สายไฟฟ้าสื่อสาร, G.hn), ใยแก้วนำแสง และคลื่นวิทยุ (เครือข่ายไร้สาย) ในโมเดล OSI สื่อเหล่านี้จะถูกกำหนดให้อยู่ในเลเยอร์ที่ 1 และที่ 2 หรือชั้นกายภาพและชั้นเชื่อมโยงข้อมูล
ครอบครัวของสื่อการสื่อสารที่ถูกพัฒนาอย่างกว้างขวางและถูกนำมาใช้ในเทคโนโลยีเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) เรียกว่า อีเธอร์เน็ต มาตรฐานของสื่อกลางและของโพรโทคอลที่ช่วยในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่ายอีเธอร์เน็ตถูกกำหนดโดยมาตรฐาน IEEE 802. อีเธอร์เน็ตในโลกไซเบอร์มีทั้งเทคโนโลยีของ LAN แบบใช้สายและแบบไร้สาย อุปกรณ์ของ LAN แบบใช้สายจะส่งสัญญาณผ่านสื่อกลางที่เป็นสายเคเบิล อุปกรณ์ LAN ไร้สายใช้คลื่นวิทยุหรือสัญญาณอินฟราเรดเป็นสื่อกลางในการส่งผ่านสํญญาณ

เทคโนโลยีแบบใช้สาย

เทคโนโลยีแบบใช้สายต่อไปนี้เรียงลำดับตามความเร็วจากช้าไปเร็วอย่างหยาบๆ
รูปแสดงสาย UTP
สายคู่บิดเป็นสื่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสำหรับการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งหมด สายคู่บิดประกอบด้วยกลุ่มของสายทองแดงหุ้มฉนวนที่มีการบิดเป็นคู่ๆ สายโทรศัพท์ธรรมดาที่ใช้ภายในบ้านทั่วไปประกอบด้วยสายทองแดงหุ้มฉนวนเพียงสองสายบิดเป็นคู่ สายเคเบิลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (แบบใช้สายอีเธอร์เน็ตตามที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEEE 802.3) จะเป็นสายคู่บิดจำนวน 4 คู่สายทองแดงที่สามารถใช้สำหรับการส่งทั้งเสียงและข้อมูล การใช้สายไฟสองเส้นบิดเป็นเกลียวจะช่วยลด crosstalk และการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างสายภายในเคเบิลชุดเดียวกัน ความเร็วในการส่งอยู่ในช่วง 2 ล้านบิตต่อวินาทีถึง 10 พันล้านบิตต่อวินาที สายคู่บิดมาในสองรูปแบบคือคู่บิดไม่มีต้วนำป้องกัน(การรบกวนจากการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอก) (unshielded twisted pair หรือ UTP) และคู่บิดมีตัวนำป้องกัน (shielded twisted pair หรือ STP) แต่ละรูปแบบออกแบบมาหลายอัตราความเร็วในการใช้งานในสถานการณ์ต่างกัน
รูปแสดง STP จะเห็น sheath ที่เป็นตัวนำป้องกันอยู่รอบนอก
สายโคแอคเชียลถูกใช้อย่างแพร่หลายสำหรับระบบเคเบิลทีวี, ในอาคารสำนักงานและสถานที่ทำงานอื่นๆ ในเครือข่ายท้องถิ่น สายโคแอคประกอบด้วยลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเดี่ยวที่ล้อมรอบด้วยชั้นฉนวน (โดยปกติจะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นกับไดอิเล็กทริกคงที่สูง) และล้อมรอบทั้งหมดด้วยตัวนำอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าจากภายนอก ฉนวนไดอิเล็กทริกจะช่วยลดสัญญาณรบกวนและความผิดเพี้ยน ความเร็วในการส่งข้อมูลอยู่ในช่วง 200 ล้านบิตต่อวินาทีจนถึงมากกว่า 500 ล้านบิตต่อวินาที
รูปแสดงสายโคแอคเชียล
'ITU-T G.hn เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สายไฟที่มีอยู่ในบ้าน (สายโคแอค, สายโทรศัพท์และสายไฟฟ้า) เพื่อสร้างเครือข่ายท้องถิ่นความเร็วสูง (ถึง 1 Gb/s)
ใยแก้วนำแสง เป็นแก้วไฟเบอร์ จะใช้พัลส์ของแสงในการส่งข้อมูล ข้อดีบางประการของเส้นใยแสงที่เหนือกว่าสายโลหะก็คือมีการสูญเสียในการส่งน้อยและมีอิสรภาพจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและมีความเร็วในการส่งรวดเร็วมากถึงล้านล้านบิตต่อวินาที เราสามารถใช้ความยาวคลื่นที่แตกต่างของแสงที่จะเพิ่มจำนวนของข้อความที่ถูกส่งผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงพร้อมกันในเส้นเดียวกัน

เทคโนโลยีไร้สาย

'ไมโครเวฟบนผิวโลก - การสื่อสารไมโครเวฟบนผิวโลกจะใช้เครื่องส่งและเครื่องรับสัญญาณจากสถานีบนผิวโลกที่มีลักษณะคล้ายจานดาวเทียม ไมโครเวฟภาคพื้นดินอยู่ในช่วงกิกะเฮิรตซ์ที่ต่ำ ซึ่งจำกัดการสื่อสารทั้งหมดด้วยเส้นสายตาเท่านั้น สถานีทวนสัญญาณมีระยะห่างประมาณ 48 กิโลเมตร (30 ไมล์)
ดาวเทียมสื่อสาร - การสื่อสารดาวเทียมผ่านทางคลื่นวิทยุไมโครเวฟที่ไม่ได้เบี่ยงเบนโดยชั้นบรรยากาศของโลก ดาวเทียมจะถูกส่งไปประจำการในอวกาศ ที่มักจะอยู่ในวงโคจร geosynchronous ที่ 35,400 กิโลเมตร (22,000 ไมล์) เหนือเส้นศูนย์สูตร ระบบการโคจรของโลกนี้มีความสามารถในการรับและถ่ายทอดสัญญาณเสียง, ข้อมูลและทีวี
ระบบเซลลูลาร์และ PCS ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารวิทยุหลายเทคโนโลยี ระบบแบ่งภูมิภาคที่ครอบคลุมออกเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์หลายพื้นที่ แต่ละพื้นที่มีเครื่องส่งหรืออุปกรณ์เสาอากาศถ่ายทอดสัญญาณวิทยุพลังงานต่ำเพื่อถ่ายทอดสัญญาณเรียกจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งข้างหน้า
เทคโนโลยีวิทยุและการแพร่กระจายสเปกตรัม - เครือข่ายท้องถิ่นไร้สายจะใช้เทคโนโลยีวิทยุความถี่สูงคล้ายกับโทรศัพท์มือถือดิจิทัลและเทคโนโลยีวิทยุความถี่ต่ำ. LAN ไร้สายใช้เทคโนโลยีการแพร่กระจายคลื่นความถี่เพื่อการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์หลายชนิดในพื้นที่จำกัด. IEEE 802.11 กำหนดคุณสมบัติทั่วไปของเทคโนโลยีคลื่นวิทยุไร้สายมาตรฐานเปิดที่รู้จักกันคือ Wifi
การสื่อสารอินฟราเรด สามารถส่งสัญญาณระยะทางสั้นๆมักไม่เกิน 10 เมตร ในหลายกรณีส่วนใหญ่ การส่งแสงจะใช้แบบเส้นสายตา ซึ่งจำกัดตำแหน่งการติดตั้งของอุปกรณ์การสื่อสาร
เครือข่ายทั่วโลก (global area network หรือ GAN) เป็นเครือข่ายที่ใช้สำหรับการสนับสนุนการใช้งานมือถือข้ามหลายๆ LAN ไร้สาย หรือในพื้นที่ที่ดาวเทียมครอบคลุมถึง ฯลฯ ความท้าทายที่สำคัญในการสื่อสารเคลื่อนที่คือการส่งมอบการสื่อสารของผู้ใช้จากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่ง ใน IEEE 802 การส่งมอบนี้เกี่ยวข้องกับความต่อเนื่องของ LAN ไร้สายบนผิวโลก .

เทคโนโลยีที่แปลกใหม่

มีความพยายามต่างๆที่ขนส่งข้อมูลผ่านสื่อที่แปลกใหม่ ได้แก่:
  • IP over Avian Carriers เป็นอารมณ์ขันของ April's fool เป็น RFC 1149 มันถูกนำมาใช้ในชีวิตจริงในปี 2001.
  • ขยายอินเทอร์เน็ตเพื่อมิติอวกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ.
ทั้งสองกรณีมีการหน่วงเวลาสูงอันเนื่องมาจากสัญญาณต้องเดินทางไปกลับ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารสองทางล่าช้ามาก แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการส่งข้อมูลจำนวนมาก

สำหรับวันนี้ขอบคุณมากค่ะทั้งข้อมูลดีๆและผู้ที่อ่าน blog นี้ทุกคน

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรียนร้องเพลงกับโปเต้

สวัสดีคะวันนี้นะค่ะโปเต้หรือชมอ่องสุดสวยเจ้าของบล็อกก็อยากจะมาสอนพื้นฐานทางด้านการร้องเพลงให้เพื่อนที่สนใจและรักในการร้องเพลงกัน แต่จะว่าไปต้องมีบางคนแอบคิดว่า.....อืมมม....ดิชั้นเนี่ยร้องเพลงเป็นด้วยหรอแต่อย่าดูถูกไปนะคะ ดิชั้นนั้นเก่งมากคะทุกคนอาจจะไม่เคยได้ยินเสียงดิชั้นเพราะดิชั้นเซฟเสียงสุดๆเลยคะ ไม่อยากโม้มากมาเริ่มกันเลยดีกว่า

1.อันดับแรกทุกคนต้องรู้ก่อนว่าเสียงคนเรามี3toneหลักๆ ได้แก่ chest toneหรือเสียงต่ำ mouth toneหรือเสียงกลาง และ head toneหรือเสียงสูง
ถ้าหากสนใจตามไปเรียนรู้ได้ในคริปนี้นะค่ะครูโปเต้มิว่างอัดคลิปสอนจริงๆ เพราะงานเยอะมาก



2.มาพูดเรื่องการหายใจกันคะ จริงๆเทคนิคอันนี้ไม่มีไรยากนะค่ะ แค่หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบ แต่อย่าลืมว่าการร้องเพลงร้องหายใจทางปากและเก็บลมให้เต็มท้องนะค่ะ 


3.เมื่อเราหายใจได้ถูกวิธีแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการsupportนั่นคือการทำให้เสียงของเรานั้นทรงพลังมากขึ้น ดังขึ้น โดนที่เราไม่ต้องตะโกน หรือตะเบ็ง แต่เราจะใช้ท้องในการควบคุมกันนั่นเอง



4.อันนี้บอกเลยว่านักร้องทุกคนต้องทำได้นั้นคือVibratoหรือลูกคอนั้นแหละค้าาาาา วิธีฝึกก็ไม่มีไรยากแค่ให้คิดว่ามีเสียงเรากำลังแล่นอยู่บนถนนและมีหลุมถี่ๆบนถนน ประมาณในคลิปไปชมกันเลยย!!


5.อันนี้สำคัญมากเพราะก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เพลงเพราะไม่เพราะก็คือdynamic คือความดังเบาของเสียง เพื่อเพิ่มความน่าฟังลีลาความสวยงามของบทเพลงค้าา ไปชมคลิปนี้เลย


6.คือการทำrip roll หรือ bubble ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองกันค้า เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อพัฒนาเสียงร้องของเรา ตามไปฝึกกันเลย



วันนี้ครูโปเต้ก็จะมาสอนร้องเพลงคราวๆแค่นี้ซึ่งถ้าทุกคนได้ทำการฝึกวิธีต่างๆอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องแน่แนนคะเสียงเราจะเกิดการพัฒนาทำให้การร้องเพลงเรามีคุณภาพ ท้ายนี้ครูโปเต้ขอฝากไว้ว่า 
การร้องเพลไม่ใช่สิ่งที่ง่ายและสิ่งที่ยากขอเพียงแต่ให้ขยันในการฝึกฝนและอย่าหยุดพัฒนา ขอบคุณคะ 




วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 4 : โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ (Java)


วันนี้เราจะมารู้จักภาษาจาวากัน โดยปกติจะเห็นในเว็บหรือว่าแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ วันนี้เพราะจะมาเจาะลึกกัน !!!!
ไปกันเลย 
!!!!!


ภาษาจาวา (อังกฤษJava programming language) เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ (อังกฤษObject Oriented Programming) พัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ ที่ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ภาษาจาวาถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) โดยเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการกรีน (the Green Project) และสำเร็จออกสู่สาธารณะในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) ซึ่งภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส (C++) โดยรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี (Objective-C) แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แต่ว่ามีปัญหาทางลิขสิทธิ์ จึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน
และแม้ว่าจะมีชื่อคล้ายกัน แต่ภาษาจาวาไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับภาษาจาวาสคริปต์ (JavaScript) ปัจจุบันมาตรฐานของภาษาจาวาดูแลโดย Java Community Process ซึ่งเป็นกระบวนการอย่างเป็นทางการ ที่อนุญาตให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกำหนดความสามารถในจาวาแพลตฟอร์มได้

จุดมุ่งหมาย

จุดมุ่งหมายหลัก 4 ประการ ในการพัฒนาจาวา คือ
  1. ใช้ภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ
  2. ไม่ขึ้นกับแพลตฟอร์ม (สถาปัตยกรรม และ ระบบปฏิบัติการ)
  3. เหมาะกับการใช้ในระบบเครือข่าย พร้อมมีไลบรารีสนับสนุน
  4. เรียกใช้งานจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

จาวาแพลตฟอร์ม และ ภาษาจาวา

เนื่องจากชื่อที่เหมือนกัน และการเรียกขานที่มักจะพูดถึงพร้อมกันบ่อยๆ ทำให้คนทั่วไป มักสับสนว่า ภาษาจาวา และ จาวาแพลตฟอร์ม เป็นสิ่งเดียวกัน
ในความเป็นจริงนั้น ทั้งสองสิ่ง แม้จะทำงานเสริมกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่แยกออกจากกัน
โดย ภาษาจาวานั้น คือภาษาสำหรับใช้เขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ดังที่ได้อธิบายไปข้างต้น ส่วน จาวาแพลตฟอร์มนั้น คือสภาพแวดล้อมสำหรับการใช้งานโปรแกรมจาวา โดยมีองค์ประกอบหลักคือ จาวาเวอร์ชวลแมชีน (Java virtual machine) และ ไลบรารีมาตรฐานจาวา (Java standard library)
โปรแกรมที่ทำงานบนจาวาแพลตฟอร์มนั้น ไม่จำเป็นจะต้องสร้างด้วยภาษาจาวา เช่น อาจจะใช้ ภาษาไพทอน (Python) หรือ ภาษาอื่นๆก็ได้
ส่วนภาษาจาวานั้น ก็สามารถนำไปใช้พัฒนาโปรแกรมสำหรับแพลตฟอร์มอื่นได้เช่นเดียวกัน เช่น คอมไพเลอร์ gcj สามารถคอมไพล์โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาจาวา ให้ทำงานได้ โดยไม่ต้องใช้ จาวาเวอร์ชวลแมชีน

ประวัติ

รุ่นต่าง ๆ ของภาษาจาวา[แก้]

  • 1.0 (ค.ศ. 1996) — ออกครั้งแรกสุด
  • 1.1 (ค.ศ. 1997) — ปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเพิ่ม inner class
  • 1.2 (4 ธันวาคมค.ศ. 1998) — รหัส Playground ด้านจาวาแพลตฟอร์มได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน API และ JVM (API สำคัญที่เพิ่มมาคือ Java Collections Framework และ Swing; ส่วนใน JVM เพิ่ม JIT compiler) แต่ตัวภาษาจาวานั้น เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย (เพิ่มคีย์เวิร์ดstrictfp) และทั้งหมดถูกเรียกชื่อใหม่ว่า "จาวา 2" แต่ระบบเลขรุ่นยังไม่เปลี่ยนแปลง
  • 1.3 (8 พฤษภาคมค.ศ. 2000) — รหัส Kestrel แก้ไขเล็กน้อย
  • 1.4 (13 กุมภาพันธ์ค.ศ. 2002) — รหัส Merlin เป็นรุ่นที่ถูกใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน (ขณะที่เขียน ค.ศ. 2005)
  • 5.0 (29 กันยายนค.ศ. 2004) — รหัส Tiger (เดิมทีนับเป็น 1.5) เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในภาษาจาวา เช่น Annotations ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันว่านำมาจากภาษาซีชาร์ป ของบริษัทไมโครซอฟท์EnumerationsVarargs, Enhanced for loop, Autoboxing, และที่สำคัญคือ Generics
  • 6.0 (11 ธันวาคมค.ศ. 2006)  — รหัส Mustang เป็นรุ่นในการพัฒนาของ Java SDK 6.0 ที่ออกมาให้ทดลองใช้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2004
  • 7.0 (กำลังพัฒนา กำหนดออก ค.ศ. 2008) — รหัส Dolphin กำลังพัฒนา 

ตัวอย่าง

// ประกาศ class
public class MyClass {
    // ประกาศ Method ชื่อ main เพราะ java จะเรียกหา Method main เป็น Method แรก
    public static void main(String[] args) {
        System.out.println("Hello World!"); // แสดงข้อความว่า Hello World!
    }
}

ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง

รายชื่อของซอฟต์แวร์เสรีที่เกี่ยวข้องกับจาวา

ขอขอบคุณที่ติดตามชมนะคะขอบให้ทุกท่านมีความสุขมากๆกับสิ่งที่ฉันได้นำเสนอนะคะ ♥


วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 3 : Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย

คำว่าโซเชียลนั้นเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นการใช้ โซเชียลจึงต้องระวัง และใช้งานอย่างรอบคอบเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้เราไปรู้จัก โซเชียลกันเลยเถอะะะะ
!!!!!!

Social Network คืออะไร บทเรียนขั้นพื้นฐาน สู่ความเข้าใจเรื่อง โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) เพื่อนำไปสู่การทำการตลาดบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network Marketing
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Social Network สำหรับนักการตลาดมือใหม่ ที่คิดจะใช้ช่องทางนี้ในการ Promote สินค้า และบริการ  microBrand ได้เรียบเรียงเนื้อหาสั้นๆ แต่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นยังไง






Social Network คืออะไร

โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย  ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว)  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ



โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
การจัดประเภทของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) นั้นสามารถแยกได้ตามรูปแบบ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน



โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ตามรูปแบบ แบ่งได้เป็น

1. Blog หรือ บล็อก คือเว็บไซต์รูปแบบหนึ่ง มาจากคำว่า Weblog (Website + Log) ซึ่งคำว่า Log ในที่นี้หมายถึง “ปูม” ดังนั้น Blog จึงมีลักษณะเป็นเว็บไซต์ที่จัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีเดียวกับปูม  มีการเรียงลำดับตามวันที่บันทึก  ข้อมูลใหม่ที่ Post จะอยู่บนสุด  ส่วนข้อมูลเก่าจะอยู่ล่างสุด  โดยบล็อกสมัยนี้ไม่ได้อยู่ลำพังเดี่ยวๆ แต่มีลักษณะเป็น Community ที่รวบรวม Blog หลายๆ Blog เข้าไว้ด้วยกัน  สามารถเชื่อมโยงผู้เขียน (Blogger) ได้เป็นสังคมขนาดใหญ่  ในขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงผู้อ่านไว้กับผู้เขียนได้  โดยสามารถคอมเม้นต์บทความ  ติดตาม  หรือกดโหวตได้ เช่น Blogger เป็นต้น

2. ไมโครบล็อก (Microblog) เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก ใช้สำหรับส่งข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค เพื่อบอกถึงสถานการณ์ และความเป็นไป ไมโครบล็อกที่มีผู้นิยมใช้บริการ เช่น Twitter

3. โซเชียลเน็ตเวิร์คเว็บไซต์ (Social Network Website) คือเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสังคมออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น Facebook, Linkedin, Myspace, Hi5 เป็นต้น เว็บพวกนี้มีจุดเด่นที่การแชร์คอนเท้นต์ ทั้งข้อความ รูปภาพ และวีดีโอ บางเว็บรวมไปถึงบทความ เพลง และลิ้งค์  นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นในการแสดงความรู้สึก หรือมีส่วนร่วม เช่น การกดไลค์ (Like) การโหวต การอภิปราย (Discuss) และการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น

4. เว็บโซเชียลบุ๊คมาร์ค (Bookmark Social Site) เป็นเว็บที่ให้เราเก็บหน้าเว็บ หรือเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบ เพื่อเอาไว้เข้าชมทีหลัง แต่พอมาเป็นโซเชียลไซต์ เราจะสามารถแชร์ URL ของหน้าเว็บเหล่านั้น รวมถึงดูว่าคนอื่นเก็บหน้าเว็บอะไรไว้บ้าง เข้าชม และแสดงความคิดเห็นต่อหน้าเว็บต่างๆ ได้

ข้อดี-ข้อด้อย ของ Social Network

   


             ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารของคนทั้งโลกสามารถทำได้รวดเร็วและกว้างขวาง เนื่องจากโลก Internet ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน กระแส Internet ที่มาแรงและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและบุคคลที่ต้องการสื่อสารสัมพันธ์ คงหนีไม่พ้น “Social Network” ที่สามารถเข้ากลุ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของหลายคนได้ภายในเวลารวดเร็ว ได้แก่ Twitter Facebook Whats app Line เป็นต้น แน่นอนว่าแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ย่อมมีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไป วันนี้เราจึงขอแนะนำข้อดี ข้อด้อยของแต่ละแอพฯได้ทุกคนได้ทราบกัน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการเลือกใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม

TWITTER



ข้อดี

  • สามารถเข้าถึงคนกลุ่มมากในระยะเวลาอันสั้น โดยสามารถอ่านรายงานสดจาก User ของทวิตเตอร์คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่เกิดเหตุ                                                                                           
  • ส่งข่าวสารได้เร็ว โดยสามารถส่งข่าวสารให้กับคนที่ follow เราทั้งหมดได้ในลักษณะของ short message ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ไม่เสียค่าบริการ                                                                                     
  • ได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จากบุคคลที่เรา Following เช่น ถ้าบุคคลที่เราติดตามมีการอัพเดทข้อความที่เป็นสาระความรู้ และหากมีลิ้งค์ไปยังแหล่งข้อมูลนั้นด้วย คุณก็สามารถคลิกไปดูแหล่งข้อมูลความรู้นั้นได้เลย                                                                                                                             
  • ได้รู้จักทั้งคนดังหรือไม่ดัง และคนที่คุณอยากรู้จัก และสามารถหา Search ด้วยตัวคุณเองในช่อง Search


ข้อด้อย


  • การแอบอ้างชื่่อบุคคลหรือการปลอมแปลงสามารถทำได้ง่าย เพราะการสมัครทำได้ง่ายเพียงแค่ตั้งชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และใส่อีเมล์ที่ใช้งานอยู่เท่านั้นเอง คนดังๆ อย่าง Steve Jobs Bill Gates ไปจนถึง Warren Buffet จึงมีบัญชีผู้ใช้ Twitter อยู่หลายบัญชี ซึ่งเป็นของผู้แอบอ้าง                                 
  • มีการจำกัดจำนวนตัวอักษร โดยมีความยาวครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษร                                             
  • ไม่มีการขึ้นสถานะบ่งบอกการออนไลน์ และขึ้นคำว่า Read ทำให้เราไม่รู้ว่ามีใครกำลังออนไลน์อยู่ในขณะนั้น และไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับข้อความได้อ่านข้อความที่ส่งให้หรือไม่


                                


    Facebook



    ข้อดี 
    • ส่งข้อความ แลกเปลี่ยนแบ่งปัน (Share) ข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ รูปภาพ วีดีโอ                                        
    • สามารถสร้างกลุ่ม (Group) หรือเครือข่ายทางสังคม ให้คนเข้ามาติดตามข้อมูลสินค้าและบริการ มีระบบบริการต่างๆ ได้แก่ เกมส์ กิจกรรม และโปรแกรมแอพลิเคชั่นต่างๆ ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้             
    • ไม่ตกข่าว คือทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆและผู้ที่ใกล้ชิด                                             
    • สามารถส่งสติกเกอร์และการ์ตูนอีโมชั่นแทนอารมณ์ต่างๆได้


    ข้อด้อย 

    • เพื่อนทุกคนในเครือข่ายสามารถเขียนข้อความต่างๆลง wall  ของ Facebook ได้แต่หากเป็นข้อความที่เป็นความลับ การใส่ร้ายกัน หรือแฝงไว้ด้วยการยั่วยุต่างๆ จะทำให้ผู้อ่านที่ไม่มีวุฒิภาวะพอ หลงเชื่อ เกิดความขัดแย้ง และปัญหาตามมาในภายหลังได้ 


    • การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักดีพอ เช่นการลงรูปภาพของครอบครัวหรือลูก อาจนำมาเรื่องปัญหาการปลอมตัว หรือการหลอกลวงอื่นๆที่คาดไม่ถึงได้

    WHATS APP

    ข้อดี

    • WhatsApp มีคนใช้มากกว่าและสามารถแชทกันผ่านระบบอื่นๆได้ด้วย เช่น Andriod / BB /Window 7
    • มีการแจ้งเตือนรวดเร็ว และสม่ำเสมอ                                                                                                 
    • สามารถลบข้อความที่กดส่งไปแล้วได้                                                                                                           
    • ส่งไฟล์แนบได้หลายอย่าง                                                                                                                       
    • ประหยัดแบตเตอรี่

    ข้อด้อย 

    • สัญญาณหลุดบ่อย                                                                                                                                
    • ไม่มีการ์ตูนสติกเกอร์แสดงอารมณ์                                                                                                                  
    • แชทได้แต่โทรฟรีไม่ได้                                                                                                                         
    • Add Friend ได้ทางเบอร์โทรศัพท์อย่างเดียว


    LINE

     

    ข้อดี

    • ใช้ได้กับ Mobile , Tablet และเครื่อง PC                                                                                              
    • มีสติกเกอร์ และ การ์ตูนอีโมชั่น แสดงอารมณ์ต่างๆมากมายหลายแบบ ทั้ง กวนๆ น่ารักๆ เศร้า เสียใจ ดีใจ และคำทักทายต่างๆ                                                                                                                      
    • Add Friend ได้หลายวิธี เช่น เพิ่มจากรายชื่อ QR Code การ Shake เป็นต้น                                                
    • สามารถส่งข้อความ การสร้างกรุ๊ป Chat และการแชร์ภาพ วิดีโอ เสียง ระหว่างการสนทนา                 
    • สามารถ Voice Call ใช้แทนโทรศัพท์ได้ ทั้งในและต่างประเทศโดยไม่เสียเงิน                                            
    • การพูดคุยเป็นกลุ่ม หากมีคนอ่านข้อความ จะขึ้นว่า Read แล้วกี่คน จะทำให้คาดเดาหรือประเมินได้ว่ามีใครอ่านหรือไม่อ่านได้ จะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการไม่รับรู้ข้อมูลข่าวสารไม่ได้                     

    ข้อด้อย                                                                                                                                               

    • การแจ้งเตือนไม่สม่ำเสมอ
    • ไม่สามารถลบข้อความที่ส่งไปแล้วได้
    • ลูกเล่นเยอะทำให้เปลืองแบตเตอรี่


                                     

    http://littleseoultown.blogspot.com/2013/12/social-network.html


    จะเห็นได้ว่าในแต่ละโปรแกรมโซเชียล ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะฉะนั้นเราควรใช้ให้ถูกวิธี ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ