วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 3 : Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย

คำว่าโซเชียลนั้นเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นการใช้ โซเชียลจึงต้องระวัง และใช้งานอย่างรอบคอบเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้เราไปรู้จัก โซเชียลกันเลยเถอะะะะ
!!!!!!

Social Network คืออะไร บทเรียนขั้นพื้นฐาน สู่ความเข้าใจเรื่อง โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) เพื่อนำไปสู่การทำการตลาดบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network Marketing
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Social Network สำหรับนักการตลาดมือใหม่ ที่คิดจะใช้ช่องทางนี้ในการ Promote สินค้า และบริการ  microBrand ได้เรียบเรียงเนื้อหาสั้นๆ แต่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นยังไง






Social Network คืออะไร

โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย  ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว)  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ



โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
การจัดประเภทของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) นั้นสามารถแยกได้ตามรูปแบบ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน



โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ตามรูปแบบ แบ่งได้เป็น

1. Blog หรือ บล็อก คือเว็บไซต์รูปแบบหนึ่ง มาจากคำว่า Weblog (Website + Log) ซึ่งคำว่า Log ในที่นี้หมายถึง “ปูม” ดังนั้น Blog จึงมีลักษณะเป็นเว็บไซต์ที่จัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีเดียวกับปูม  มีการเรียงลำดับตามวันที่บันทึก  ข้อมูลใหม่ที่ Post จะอยู่บนสุด  ส่วนข้อมูลเก่าจะอยู่ล่างสุด  โดยบล็อกสมัยนี้ไม่ได้อยู่ลำพังเดี่ยวๆ แต่มีลักษณะเป็น Community ที่รวบรวม Blog หลายๆ Blog เข้าไว้ด้วยกัน  สามารถเชื่อมโยงผู้เขียน (Blogger) ได้เป็นสังคมขนาดใหญ่  ในขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงผู้อ่านไว้กับผู้เขียนได้  โดยสามารถคอมเม้นต์บทความ  ติดตาม  หรือกดโหวตได้ เช่น Blogger เป็นต้น

2. ไมโครบล็อก (Microblog) เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก ใช้สำหรับส่งข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค เพื่อบอกถึงสถานการณ์ และความเป็นไป ไมโครบล็อกที่มีผู้นิยมใช้บริการ เช่น Twitter

3. โซเชียลเน็ตเวิร์คเว็บไซต์ (Social Network Website) คือเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสังคมออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น Facebook, Linkedin, Myspace, Hi5 เป็นต้น เว็บพวกนี้มีจุดเด่นที่การแชร์คอนเท้นต์ ทั้งข้อความ รูปภาพ และวีดีโอ บางเว็บรวมไปถึงบทความ เพลง และลิ้งค์  นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นในการแสดงความรู้สึก หรือมีส่วนร่วม เช่น การกดไลค์ (Like) การโหวต การอภิปราย (Discuss) และการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น

4. เว็บโซเชียลบุ๊คมาร์ค (Bookmark Social Site) เป็นเว็บที่ให้เราเก็บหน้าเว็บ หรือเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบ เพื่อเอาไว้เข้าชมทีหลัง แต่พอมาเป็นโซเชียลไซต์ เราจะสามารถแชร์ URL ของหน้าเว็บเหล่านั้น รวมถึงดูว่าคนอื่นเก็บหน้าเว็บอะไรไว้บ้าง เข้าชม และแสดงความคิดเห็นต่อหน้าเว็บต่างๆ ได้

ข้อดี-ข้อด้อย ของ Social Network

   


             ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารของคนทั้งโลกสามารถทำได้รวดเร็วและกว้างขวาง เนื่องจากโลก Internet ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน กระแส Internet ที่มาแรงและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและบุคคลที่ต้องการสื่อสารสัมพันธ์ คงหนีไม่พ้น “Social Network” ที่สามารถเข้ากลุ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของหลายคนได้ภายในเวลารวดเร็ว ได้แก่ Twitter Facebook Whats app Line เป็นต้น แน่นอนว่าแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ย่อมมีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไป วันนี้เราจึงขอแนะนำข้อดี ข้อด้อยของแต่ละแอพฯได้ทุกคนได้ทราบกัน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการเลือกใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม

TWITTER



ข้อดี

  • สามารถเข้าถึงคนกลุ่มมากในระยะเวลาอันสั้น โดยสามารถอ่านรายงานสดจาก User ของทวิตเตอร์คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่เกิดเหตุ                                                                                           
  • ส่งข่าวสารได้เร็ว โดยสามารถส่งข่าวสารให้กับคนที่ follow เราทั้งหมดได้ในลักษณะของ short message ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ไม่เสียค่าบริการ                                                                                     
  • ได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จากบุคคลที่เรา Following เช่น ถ้าบุคคลที่เราติดตามมีการอัพเดทข้อความที่เป็นสาระความรู้ และหากมีลิ้งค์ไปยังแหล่งข้อมูลนั้นด้วย คุณก็สามารถคลิกไปดูแหล่งข้อมูลความรู้นั้นได้เลย                                                                                                                             
  • ได้รู้จักทั้งคนดังหรือไม่ดัง และคนที่คุณอยากรู้จัก และสามารถหา Search ด้วยตัวคุณเองในช่อง Search


ข้อด้อย


  • การแอบอ้างชื่่อบุคคลหรือการปลอมแปลงสามารถทำได้ง่าย เพราะการสมัครทำได้ง่ายเพียงแค่ตั้งชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และใส่อีเมล์ที่ใช้งานอยู่เท่านั้นเอง คนดังๆ อย่าง Steve Jobs Bill Gates ไปจนถึง Warren Buffet จึงมีบัญชีผู้ใช้ Twitter อยู่หลายบัญชี ซึ่งเป็นของผู้แอบอ้าง                                 
  • มีการจำกัดจำนวนตัวอักษร โดยมีความยาวครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษร                                             
  • ไม่มีการขึ้นสถานะบ่งบอกการออนไลน์ และขึ้นคำว่า Read ทำให้เราไม่รู้ว่ามีใครกำลังออนไลน์อยู่ในขณะนั้น และไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับข้อความได้อ่านข้อความที่ส่งให้หรือไม่


                                


    Facebook



    ข้อดี 
    • ส่งข้อความ แลกเปลี่ยนแบ่งปัน (Share) ข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ รูปภาพ วีดีโอ                                        
    • สามารถสร้างกลุ่ม (Group) หรือเครือข่ายทางสังคม ให้คนเข้ามาติดตามข้อมูลสินค้าและบริการ มีระบบบริการต่างๆ ได้แก่ เกมส์ กิจกรรม และโปรแกรมแอพลิเคชั่นต่างๆ ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้             
    • ไม่ตกข่าว คือทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆและผู้ที่ใกล้ชิด                                             
    • สามารถส่งสติกเกอร์และการ์ตูนอีโมชั่นแทนอารมณ์ต่างๆได้


    ข้อด้อย 

    • เพื่อนทุกคนในเครือข่ายสามารถเขียนข้อความต่างๆลง wall  ของ Facebook ได้แต่หากเป็นข้อความที่เป็นความลับ การใส่ร้ายกัน หรือแฝงไว้ด้วยการยั่วยุต่างๆ จะทำให้ผู้อ่านที่ไม่มีวุฒิภาวะพอ หลงเชื่อ เกิดความขัดแย้ง และปัญหาตามมาในภายหลังได้ 


    • การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักดีพอ เช่นการลงรูปภาพของครอบครัวหรือลูก อาจนำมาเรื่องปัญหาการปลอมตัว หรือการหลอกลวงอื่นๆที่คาดไม่ถึงได้

    WHATS APP

    ข้อดี

    • WhatsApp มีคนใช้มากกว่าและสามารถแชทกันผ่านระบบอื่นๆได้ด้วย เช่น Andriod / BB /Window 7
    • มีการแจ้งเตือนรวดเร็ว และสม่ำเสมอ                                                                                                 
    • สามารถลบข้อความที่กดส่งไปแล้วได้                                                                                                           
    • ส่งไฟล์แนบได้หลายอย่าง                                                                                                                       
    • ประหยัดแบตเตอรี่

    ข้อด้อย 

    • สัญญาณหลุดบ่อย                                                                                                                                
    • ไม่มีการ์ตูนสติกเกอร์แสดงอารมณ์                                                                                                                  
    • แชทได้แต่โทรฟรีไม่ได้                                                                                                                         
    • Add Friend ได้ทางเบอร์โทรศัพท์อย่างเดียว


    LINE

     

    ข้อดี

    • ใช้ได้กับ Mobile , Tablet และเครื่อง PC                                                                                              
    • มีสติกเกอร์ และ การ์ตูนอีโมชั่น แสดงอารมณ์ต่างๆมากมายหลายแบบ ทั้ง กวนๆ น่ารักๆ เศร้า เสียใจ ดีใจ และคำทักทายต่างๆ                                                                                                                      
    • Add Friend ได้หลายวิธี เช่น เพิ่มจากรายชื่อ QR Code การ Shake เป็นต้น                                                
    • สามารถส่งข้อความ การสร้างกรุ๊ป Chat และการแชร์ภาพ วิดีโอ เสียง ระหว่างการสนทนา                 
    • สามารถ Voice Call ใช้แทนโทรศัพท์ได้ ทั้งในและต่างประเทศโดยไม่เสียเงิน                                            
    • การพูดคุยเป็นกลุ่ม หากมีคนอ่านข้อความ จะขึ้นว่า Read แล้วกี่คน จะทำให้คาดเดาหรือประเมินได้ว่ามีใครอ่านหรือไม่อ่านได้ จะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการไม่รับรู้ข้อมูลข่าวสารไม่ได้                     

    ข้อด้อย                                                                                                                                               

    • การแจ้งเตือนไม่สม่ำเสมอ
    • ไม่สามารถลบข้อความที่ส่งไปแล้วได้
    • ลูกเล่นเยอะทำให้เปลืองแบตเตอรี่


                                     

    http://littleseoultown.blogspot.com/2013/12/social-network.html


    จะเห็นได้ว่าในแต่ละโปรแกรมโซเชียล ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะฉะนั้นเราควรใช้ให้ถูกวิธี ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ 

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น